BLITZ BATTERY 24HR
ปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่นาที

BLITZ BATTERY 24HR ยินดีให้บริการ

หากต้องการติดต่อ /สอบถาม /ส่งข้อมูล

สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

  • Home
  • Blog
  • การวัดแบตเตอรี่ ค่าCCA และความสำคัญ
การวัดแบตเตอรี่ ค่าCCA และความสำคัญ

BLITZ BATTERY 24HR
บริการเปลี่ยนแบตรถยนต์นอกสถานที่ 24 ชม. 
จัดส่งทันที ติดตั้งฟรีถึงที่ 20 นาที

การวัดแบตเตอรี่ ค่าCCA คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร

         CCA ย่อมาจาก (Cold Cranking Amp) การจ่ายกระแสจากแบตเตอรี่เพื่อใช้สำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ในสภาวะอากาศหนาว ยิ่งค่า CCA สูงเท่าไหร่ก็จะมีกำลังสำหรับสตาร์ทมากขึ้นเท่านั้น ค่า CCA ของแบตเตอรี่ที่วัดจะไม่เท่ากันแตกต่างกันไปตามแต่ขนาดของแบตเตอรี่และรุ่นของแบตเตอรี่ที่มีความจุที่แตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งค่าที่วัดได้นี้จะลดน้อยถอยลงตามสภาพแบตเตอรี่

มาตรฐานการวัดค่า ที่นิยมใช้กันได้แก่

  • มาตรฐาน SAE (Society of Automotive Engineers)  มาตรฐานของสมาคมวิศวกรยานยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา 
  • มาตรฐาน EN (European Norm) เป็นมาตรฐานที่ใช้สำหรับสหภาพยุโรป
  • มาตรฐาน IEC (International Electrotechnical Commission) มาตรฐานที่พัฒนาโดยองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน

ขนาดของเครื่องยนต์

ค่า CCA ที่ต้องใช้

2,200 cc.

268 CCA

2,500 cc.

325CCA

2,700 cc.

351CCA

2,800 cc.

364CCA

3,000 cc.

390CCA

3,200 cc.

416CCA

ขนาดของเครื่องยนต์

ค่า CCA ที่ต้องใช้

1,000 cc.

130 CCA

1,200 cc.

156 CCA

1,500 cc.

195 CCA

1,600 cc.

208 CCA

1,800 cc.

234 CCA

2,000 cc.

260 CCA

*** วิธีคำนวนค่า CCA ที่เหมาะสม = ขนาดเครื่องยนต์ (cc) x 0.13 ***

        อายุของแบตเตอรี่รถยนต์ขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวแบตเตอรี่เอง การใช้รถและการดูแลรักษาตรวจเช็คแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ที่คุณภาพดีนั้นค่าCCA ก็จะสูง ซึ่งราคาก็แพงกว่าแบตทั่วไป ค่า CCA จะค่อยๆลดลงตามเวลาหากใช้รถเป็นประจำ